สถิติ
เปิดเมื่อ16/05/2012
อัพเดท13/09/2012
ผู้เข้าชม3579
แสดงหน้า3986
ปฎิทิน
April 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
   




หน่วยการเรียนรู้ที่1 ธรรมชาติและวิวัฒนาการของเทคโนโลยี

อ่าน 125 | ตอบ 0
การออกแบบและเทคโนโลยี
สาระที่3 การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง3.1เข้าใจธรรรมชาติและกระบวนการของเทคโนโลยี ใช้ความรู้ ภูมิปัญญา จินตนาการและความคิดอย่างมีระบบในการออกแบบ สร้างสิ่งของเครื่องใช้ วิธีการเชิงกลยุทธ์ตามกระบวนการเทคโนโลยี สามารถตัดสินใจ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม สิ้งแวดล้อม โลกของงานและอาชีพ

ผลการดรียนรู้ที่คาดหวัง
1.เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเทคโนโลยี
2.เข้าใจธรรมชาติ ประดยชน์ของเทคโนโลยี
3.บอกประวัติและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตามยุคสมัย
4.บอกวิวัฒนาการของเทคโนโลยีของประเทศไทย
5.มีเจตคติที่ดีต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อการดำรงชีวิต

จุดประสงค์การเรียนรู้
1.เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเทคโนโลยี
2.เข้าใจธรรมชาติ ประดยชน์ของเทคโนโลยี
3.บอกประวัติและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตามยุคสมัย
4.บอกวิวัฒนาการของเทคโนโลยีของประเทศไทย
5.มีเจตคติที่ดีต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อการดำรงชีวิต
เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง เป็นการนำความรู้ ทักษะ และทรัพยากรมาสร้างสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการโดยผานกระบวนการ เพื่อแก้ปัญหา สนองความต้องการ หรือเพิ่มความสามารถในการทำงานของมนุษย์
  1. เป็นพื้นฐานปัจจัยจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ 
  2. เป็นปัจจัยหลักที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา 
  3. เป็นเรื่องราวของมนุษย์ และธรรมชาติ 

    ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา  วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นจนสามารถสร้าง นวัตกรรม (Innovation) ซึ่งก็คือ การเรียนรู้ การผลิตและ การใช้ประโยชน์จากความคิดใหม่  ให้เกิดผลทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง  สิ่งแวดล้อม  และวัฒนธรรม  เทคโนโลยีทำให้สังคมโลกที่เรียบง่าย กลายเป็นสังคมที่มีการดำรงชีวิตที่สลับซับซ้อนมากขึ้น  ก่อให้เกิดกระแสแห่งความไร้พรมแดน  หรือกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่เข้ามาสู่ทุกประเทศอย่างรวดเร็ว  จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ อันเป็นการผสมผสาน 4 ศาสตร์ เข้าด้วยกันได้แก่ อิเล็อทรอนิกส์  โทรคมนาคม  และข่าวสาร  (Electronics , Computer ,Telecomunication and Information หรือเรียกย่อ ๆ ว่า ECTI ) ทำให้สังคมโลกสามารถสื่อสารกันได้ทุกแห่งทั่วโลกอย่างรวดเร็ว  สามารถรับรู้ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่าง  ๆ ได้พร้อมกัน  สามารถบริหารจัดการและตัดสินใจได้ทุกขณะเวลา การลงทุนค้าขาย และธุรกรรมการเงินทได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเทคโนโลยีกำลังทำโลกใบนี้ “เล็กลง” ทุกขณะ

 

 

 

            วิวัฒนาเทคโนโลยี (Evolution of Technolgy ) เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาเมื่อเวลาผ่านไป ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับกระบวนการทางวิวัฒนาการ (Evolution) ของระบบหรือเครื่องมือนั้น ๆ  ดังนั้นคำว่า วิวัฒนาการของเทคโนโลยี (Evolution of Technology ) จึงหมายถึง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบหรือเครื่องมือที่เกิดขึ้นอย่างซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับอย่างต่อเนื่องอันมีสาเหตุมาจากปัจจัยตาง ๆ    

    วิวัฒนาการสามารถแบ่งได้เป็น 5 ยุค
    • ยุคหิน (Stone age)
    • ยุคทองสัมฤทธิ์ ( Bronze age)
    • ยุคเหล็ก (Iron age)
    • ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)
    • ยุคศตวรรษที่ 20 (The 20th Century)

 

ยุคที่ 1. ยุคหิน (Stone age)

             เป็นยุคแรกของมนุษย์ที่มีการใช้เครื่องมือซึ่งทำมาจากหินทั้งสิ้น เช่นอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้หรือเครื่องใช้ภายในครัวเรือนชนิดต่าง ๆ เครื่องมือต่าง ๆ เหล่านี้ทำมาจากหินก่อนที่จะมีการใช้โลหะในเวลาต่อมา 


 ลักษณะของยุคหินในทวีปต่าง ๆ 

  1. ทวีปอเมริกา ยุคหินในทวีปอเมริกา ได้เริ่มขึ้นเมื่อมีมนุษย์รุ่นแรก ๆ จากหลายถิ่นฐานได้เข้าไปอยู่อาศัยในทวีปอเมริกา หรือที่เรียกว่าโลกใหม่ (New world) เมื่อประมาณ 30,000 ปีที่แล้ว และยุคหินในทวีปอเมริกาได้สิ้นสุดลงเมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช
  2. ทวีปเอเชีย (ตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ) ยุคหินได้สิ้นสุดเมื่อประมาณ 6,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
  3. ทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา และเอเชียเหนือ ยุคหินได้สิ้นสุดเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช


             ระยะเวลาของยุคหินในแต่ละทวีปบนพื้นโลกมีความแตกต่างกันดังได้กล่าวมาแล้ว และระยะเวลาการเกิดของยุคหินในแต่ละที่ก็มีอิทธิพลโดยตรงต่อมนุษย์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงได้แบ่งยุคหินออกเป็น 3 ระยะ

             ระยะพาลีโอลิค(Paleolitthic) หรือ Old Stone Age เป็นช่วงที่มีความยาวนานมากที่สุด่ของยุคหิน โดยได้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2 ล้านปีที่ผ่านมาแล้วและสิ้นสุดเมื่อยุคน้ำแข็งได้สิ้นสุดลงเมื่อประมาณ 13,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช มนุษย์ยุคนี้ได้นำหินมาทำเป็นอาวุธ และได้พบหลักฐานว่ามนุษย์ถ้า โครแมนยอง (Cro-Magnon) ในทวีปยุโรปได้วาดภาพซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ต่าง ๆ ในช่วงปลายของระยะนี้

             ระยะมีโซลิติค( Mesolithic) หรือ Middle Stone Age เป็นช่วงหลัง 13,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ระยะนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นบนพื้นโลกส่งผลให้มีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารเพิ่มมากขึ้น จึงมีเครื่องมือเครื่องใช้หลายชนิดที่ทำด้วยก้อนกรวด ก้อนหิที่ได้มาใชีวิตประจำ

             ระยะนีโอลิติต (Neolithic ) ระยะนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 8,000ปีก่อนคริสต์ศักราช มนุษย์ยุคนี้ได้นำสังคมเกษตรกรมเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องมือที่ใช้ในครัวเรือนบางชนิดได้มีการเปลี่ยนแปลงและได้มีการเริ่มใช้โลหะบางชนิดใน ได้มีการเปลี่ยนแปลงและได้มีการเริ่มใช้โลหะบางชนิดในช่วงปลายของระยะนี้

 

 

 

ยุคที่ 2. ยุคทองสัมฤทธิ์ ( Bronze age )


 ลักษณะของยุคทองสัมฤทธิ์

            ได้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 3,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช และสิ้นสุดเมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช เชื่อกันว่าเครื่องไม้เครื่องมือที่ทำจากทองสำเริดได้เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในแถบตะวันออกกลาง(Middle  East) และในทวีปยุโรปโดยเริ่มที่ประเทศกรีก ในทวีปเอเชียยุคทองสำริดได้เริ่มขึ้นทีประเทศจีนเมื่อประมาณ 1,800 ปีก่อนคริสต์ศักราช ส่วนในทวีปอเมริกายุคทองสำริดได้เริ่มขึ้นเมื่อ 1,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราชในประเทศไทย  ได้มีการค้นพบเครื่องมือบ่างชนิดที่ทำด้วยทองสำริด เช่นใบหอก  ขวาน กำไล  และเบ็ดตกปลา เป็นต้น  ที่ตำบลบ้านเชียง  อำเภอหนองหาน  จังหวัดอุบลราชธานี และที่ตำบลแวง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร  และจากการค้นพบวัตถุโบราณชนิดนี้ทำให้เชื่อว่ายุคทองสำริดเกิดขึ้นมานานแล้วประมาณ 4,500 ปี ก่อนคริสต์ศักราช  


            ยุคทองสำริดในตะวันออกกลางและแถบเมดิเตอร์เรเนียนแบ่งออกเป็น 3 ระยะดังนี้.

             ระยะต้น (Eaarly Bronze age) โลหะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในชีวิตประจำวันมากขึ้นซึ่งเป็นยุคของชูบาเรียน ซิวิไลเซซัน( Sumaian Civilzation)

             ระยะกลาง (Middle Brone age) เป็นยุคของบาบิโลน (Babylon) ชาวบาบิโลนนอกจากรู้จักใช้โลหะแล้ว ยังเป็นผู้ให้กำเนิดวิธีการทำนายชะตาชีวิตมนุษย์โดยดูจากอิทธิพลของดวงดาวหรือโหราศาสตร์ โดยมีหลักฐานหินปักเขตรูปเทพเจ้าต่าง ๆ ที่ค้นพบ

             ระยะสุดท้าย (Late Bronze age) เป็นยุคของไมโนแอน ครีท (Minoan crete) และ ไมซีนาเอน ครีซ(Mycenaean Creece)

 

 

 

 

 

ยุคที่ 3. ยุคเหล็ก (Iron age)

 

 

 

 ลักษณะของยุคเหล็ก

              เป็นยุคที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ  มีการนำเอาเหล็กเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์และอาวุธยุทโธปกรณ์แทนทองสัมฤทธิ์ซึ่งมีการใช้แพร่หลายกันในยุคทองสัมฤทธิ์ ยุคนี้ได้นำเหล็กมาใช้มากขึ้นเมื่อมีการนำเตาเผาซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการหลอมโลหะบางชนิด จนทำให้เหล็กกลายเป็นวัสดุที่สำคัญที่ใช้ในการผลิตวัสดุ อุปกรณ์  เครื่องใช้ต่าง  ๆ ของมนุษย์ในยุคเหล็ก โลหะเหล็กใช้กันแพร่หลายมากในช่วง 500 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในประเทศไทยมีการขุดพบเครื่องมือที่ทำจากเหล็กที่ บ้านดอนตาเพชร จังหวัดกาญจนบุรี และที่ตำบลโนนชัย อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

              การผลิตเหล็กกล้าในยุคแรก ๆ ทำได้ด้วยวิธีการนำธาตุคาร์บอนไปผสมกับธาตุเหล็กจากนั้นจะใช้ค้อนทุบในเตาถ่านหินที่มีอุณหภูมิสูงเพื่อทำเป็นอุปกรณ์ใช้สอยชนิดต่าง ๆ เช่นภาชนะเครื่องใช้สอยต่าง ๆ ในครัวเรือน นอกจากนี้ได้มีการนำซีเมนต์และคอนกรีตโดยมีเหล็กเป็นโครงสร้างมาก่อนสร้างตึกอาคารต่าง  ๆในยุคนี้อุตสาหกรรมการทำเหมืองแร่ได้มีการพัฒนามากขึ้นด้วย

 

 

 

ยุคที่ 4. ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)

 


 ลักษณะของยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม

              เทคโนโลยีได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อย ๆ จากยุคต้น ๆ จนกลายเป็นยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งเริ่มต้นที่ประเทศอังกฤษ (Great Britain) ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1790-1830 โดยการสนับสนุนของรัฐบาลอังกฤษ โดยในช่วง แรก ๆ ได้พัฒนาจากการเกษตรแบบขนบท  จากนั้นกลายเป็นการเกษตรแบบเมือง และกลายเป็นอุตสาหกรรมการผลิตในที่สุด อุตสาหกรรมการผลิตแห่งแรกในประเทศอังกฤษได้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1740 ได้แก่อุตสาหกรรมสิ่งทอ  ต่อมา James Watt และ Thomas Newcomen  ได้ผลิตเครื่องจักรไอน้ำขึ้น ยุคอุตสาหกรรมได้แพร่หลายไปยังหลายประเทศในทวีปยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 19 และขยายไปยังอเมริกา รัสเซีย และญี่ปุ่นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 
                ในยุคนี้เทคโนโลยีเจริญรุดหน้ามาก คือ เทคโนโลยีด้านพลังงาน (Energy Technology) มีการสร้างกังหันลมและใช้พลังงานไอน้ำสำหรับการทำงานของเตรื่องจักรกล และการค้นพบความรู้เรื่องไฟฟ้าเป็นผลให้คิดค้นสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ความรู้การถลุงแร่ทำให้เกิดโลหะวิทยาและเกิดเทคโนโลยีต่าง ๆ มากขึ้น นอกจากนี้ มีการสร้างโรงงานทอผ้าที่ใช้ความรู้ทางเคมีกับเรื่องสิ่งทอ ในตอนปลายของยุค วิศวกรโรงงานต่าง ๆ พัฒนาสิ่งแก่อสร้างต่าง ๆ เช่น สะพาน เขื่อน ท่อ การสื่อสารและคมนาคม เช่น ก่อสร้างถนน ขุดคลอง กิจการรถไฟ การสื่อสาร ระบบการพิมพ์ การถ่ายภาพ โทรเลข โทรศัพท์ เทคโนโลยีในยุคนี้ก้าวหน้ารวดเร็วมาก ส่วนใหญ่เป็นเทคโนโลยีตามความต้องการของสังคมอุตสาหกรรมขณะนั้น

 

 

 

 

 

ยุคที่ 5. ยุคศตวรรษที่ 20 (The 20th Century)

 


 ลักษณะของยุคศตวรรษที่ 20

              ยุคนี้ถือเป็นการเจริญเติบโตอย่างมากหรือยุคทองทางด้านเทคโนโลยีอย่างมากกระบวนการผลิตทางเทคโนโลยีได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 กระบวนการต่าง ๆ ที่นำไปสู่การเจริญเติบโตแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน

       ยุคนี้เริ่มจากการบิน การส่งจรวด ความรู้ทางอิเล้กทรอนิกส์และระเบิดปรมาณู การประดิษฐ์คิดค้นวัสดุใหม่ ๆ ซึงมีทั้งสร้างสรรค์และทำลายสังคม การพัฒนาวิทยาการการบินและเทคโนโลยีทางอวกาศก้าวหน้ามาก เกิดความรู้ทางวิทยาศาสตร์หลายแขนง ทำให้มีการคิดค้นสร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด

    1. ความเข้าใจพื้นฐาน (Basic information)
    2. การให้ความรู้ด้านเทคนิค (Technical education)
    3. การประเมินผลด้านเทคโนโลยี (Assessment of technology )
    4. อนาคตของเทคโนโลยี (Outlook)

 

 

 

 

 

วิวัฒนาการของเทคโนโลยีในประเทศไทย

            เนื่องจากประเทศไทยมีอารยธรรมมาช้านาน และพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มากมาย อาจแบ่งตามสมัยต่าง ๆ ได้ดังนี้

                 1. สมัยสุโขทัย
                 2. สมัยอยุธยา
                 3. สมัยรัตนโกสินทร์
                 4. สมัยปัจจุบัน

 สมัยสุโขทัย

          - นำเครื่องปั้นดินเผาจากเมืองจีน และโปรดสร้างโรงงานขึ้นที่เมืองสวรรคโลก (1843 : พ่อขุนรามคำแหง)

 สมัยอยุธยา

          - เกิดเทคโนโลยี (ปืนใหญ่) สมุนไพรโบราณและยาโบราณ (2199-2231 : สมเด็จพระนารายณ์มหาราช)

 สมัยรัตนโกสินทร์

          - สอนศาสนาทั้งโรมันคาทอลิก และโปแตสแตนต์ รวมทั้งคณะมิชชันนารี มีการทำแลซ่อมนาฬิกา การต่อเรือ (2367-2394 : รัชกาลที่ 3)

          - สร้างเรือกลไฟพระที่นั่งขึ้นเป้นลำแรก (2394 : รัชกาลที่ 4)

         - วางสายโทรศัพท์ (2424 : พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว )

         - เริ่มสร้างทางรถไฟสายแรกจากกรุงเทพ ฯ ถึงนครราชสีมา (2433 : รัชกาลที่ 5)

        -  ตั้งการประปาขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย (2452 : รัชกาลที่ 5)

        -  สำรวจพบถ่านหินลิกไนต์ (2460: รัชกาลที่ 6)

        -  เริ่มใช้โทรศัพท์อัตโนมัติ (2468 : รัชกาลที่ 6)

        -  มีการพัฒนาโทรทัศน์ขึ้น (2469 : รัชกาลที่ 7)

       -   ไทยใช้รถจักรดีเซลเป็นประเทศแรกในเอเชีย (2471 : รัชกาลที่ 7)

        -  นายเลื่อน พงษ์โสภณ ประดิษฐ์รถสามล้อ (2476 : รัชกาลที่ 7)

        -  ตั้งโรงเรียนช่างชลประทาน (2481 : รัชกาลที่ 8)

 สมัยปัจจุบัน

        -  โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ (2491 : รัชกาลที่ 9)

        -  พลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (2504 : รัชกาลที่ 9)

        -  นำเข้าคอมพิวเตอร์เครื่องแรก (2491 : รัชกาลที่ 9)

        -  ตั้งสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2515 : รัชกาลที่ 9)

        -  เริ่มอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (2518 : รัชกาลที่ 9)

        -  ตั้งสถานีรับสัญญาณภาคพื้นดินจากดาวเทียม (2524 : รัชกาลที่ 9)

        -  ตั้งศูนย์ BIOTECH (2526 : รัชกาลที่ 9)

        -  ตรา พ.ร.บ. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นองค์กรอิสระ (2541 : รัชกาลที่ 9)

        -  โครงการต่าง ๆ ตามพระราชดำริ และโครงการหลวงต่าง ๆ เช่น โครงการฝนหลวง เกษตรทฤษฎ๊ใหม่ โครงการไร่นาสวนผสม เป็นต้น (2491 : รัชกาลที่ 9)

 

 


ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :